นางสาวทัศนีย์ เมืองแก้ว รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการติดตามประเมินผลโครงการส่งเสริมการผลิตผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน ซึ่งเป็นโครงการสำคัญภายใต้แผนแม่บทย่อยเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น ในปี 2564 โดยมีกรมหม่อนไหมเป็นหน่วยงานรับผิดชอบส่งเสริมและพัฒนากลุ่มผู้ผลิตผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน มีการจัดอบรมความรู้ ด้านการผลิตและการตรวจรับรองมาตรฐานการผลิตผ้าไหมตรานกยูงพระราชทานแก่กลุ่มเกษตรกร จากการติดตามประเมินผลโครงการพบว่า ปีงบประมาณ 2564 สามารถส่งเสริมเกษตรกรได้จำนวน 626 ราย ผลจากการสนับสนุนการอบรมถ่ายทอดความรู้ให้แก่สมาชิกกลุ่ม ในปีงบประมาณ 2564 กลุ่มทอผ้าบ้านขี้กา สามารถนำความรู้ที่ได้รับมาปรับปรุงและพัฒนาวิธีการฟอกย้อมสีเคมี/สีธรรมชาติได้อย่างถูกวิธี สามารถพัฒนาลายของผ้าไหมให้มีลวดลายสวยงามมากยิ่งขึ้น เช่น ผ้าไหมมัดหมี่สีมะดัน ซึ่งเป็นสีประจำจังหวัดศรีสะเกษ ผ้าไหมมัดหมี่เฉลียงลายดอกไม้ ผ้ามัดหมี่ลายแมงมุม ปัจจุบันมีสมาชิก 2 ราย ได้ใบรับรองมาตรฐานการผลิตผ้าไหมตรานกยูงพระราชทานเรียบร้อยแล้ว ส่วนเกษตรกรสมาชิกราย อื่นๆ สามารถจำหน่ายผ้าไหมได้ในราคาที่เพิ่มขึ้นเป็นผืนละประมาณ 1,500 – 2,000 บาทผลให้เกษตรกรมีรายได้เสริมจากการจำหน่ายผ้าไหมเฉลี่ยรายละ 34,400 บาท/ปี ทั้งนี้ ราคามีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับลวดลายและวิธีการทอผ้าไหม ด้านการตลาด นอกจากจะจำหน่ายภายในหมู่บ้าน ยังมีการขยายช่องทางการตลาดในรูปแบบออนไลน์ เช่น Line และ Facebook ของสมาชิกเกษตรกร ซึ่งปัจจุบันถือว่าได้รับความนิยม มีการสั่งจองเข้ามาอย่างต่อเนื่องและในอนาคต มีแผนพัฒนาสู่การเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) หรือสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่นอีกทั้งผู้ใช้หรือผู้ซื้อผ้าไหม ยังมั่นใจในคุณภาพจากการรับรองมาตรฐานผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน ซึ่งจะทำให้ผ้าไหมของไทยเป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นในอนาคต
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : อุไรวรรณ กลิ่นหอม
ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา
แหล่งที่มา : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย